ในปี พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมราษฎรชาวเขาบ้านป่าแป๋ และบ้านห้วยห้อมเป็นครั้งแรก และในปีพ.ศ. 2516 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมราษฎรทั้งสองหมู่บ้านอีกครั้ง ทรงรับสั่งให้ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เข้าช่วยเหลือพัฒนาอาชีพแก่ชาวเขา โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม สังคม และสาธารณสุข จากนั้น ในปี พ.ศ. 2523 ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อยจึงก่อตั้งขึ้นสำเร็จ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย มีพื้นที่รับผิดชอบ 91.75 ตารางกิโลเมตร หรือ 57,368 ไร่ ครอบคลุม 14 หมู่บ้าน ประกอบด้วยชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง และเผ่าละว้า
วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556
ชมแกะ ชมไร่ ชิมกาแฟที่ "บ้านห้วยห้อม"
"โครงการหลวงแม่ลาน้อย" ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน นับเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีความน่าสนใจชวนเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง โครงการนี้มีจุดเริ่มต้นเมื่อ 25 ปีที่แล้ว บริเวณบ้านดง บ้านห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย และบ้านป่าแป๋ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำแม่ลาน้อย และแม่น้ำแม่สะเรียง ชาวบ้านนิยมการปลูกฝิ่น และทำไร่เลื่อนลอยอย่างกว้างขวาง
ในปี พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมราษฎรชาวเขาบ้านป่าแป๋ และบ้านห้วยห้อมเป็นครั้งแรก และในปีพ.ศ. 2516 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมราษฎรทั้งสองหมู่บ้านอีกครั้ง ทรงรับสั่งให้ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เข้าช่วยเหลือพัฒนาอาชีพแก่ชาวเขา โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม สังคม และสาธารณสุข จากนั้น ในปี พ.ศ. 2523 ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อยจึงก่อตั้งขึ้นสำเร็จ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย มีพื้นที่รับผิดชอบ 91.75 ตารางกิโลเมตร หรือ 57,368 ไร่ ครอบคลุม 14 หมู่บ้าน ประกอบด้วยชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง และเผ่าละว้า
ในปี พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมราษฎรชาวเขาบ้านป่าแป๋ และบ้านห้วยห้อมเป็นครั้งแรก และในปีพ.ศ. 2516 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมราษฎรทั้งสองหมู่บ้านอีกครั้ง ทรงรับสั่งให้ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เข้าช่วยเหลือพัฒนาอาชีพแก่ชาวเขา โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม สังคม และสาธารณสุข จากนั้น ในปี พ.ศ. 2523 ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อยจึงก่อตั้งขึ้นสำเร็จ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย มีพื้นที่รับผิดชอบ 91.75 ตารางกิโลเมตร หรือ 57,368 ไร่ ครอบคลุม 14 หมู่บ้าน ประกอบด้วยชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง และเผ่าละว้า
วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556
ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า.....Unseen Thailand
ถ้ำลอด ปางมะผ้า ตั้งอยู่ที่ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ ปัจจุบันอยู่ ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำปาย มีสถานที่น่าสนใจ คือ ถ้ำลอด ซึ่งมีลำห้วยชื่อ น้ำลางไหล ลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม จากการพบเครื่องมือเครื่องใช้โบราณในถ้ำสันนิษฐานได้ว่ามีอายุประมาณ 2,000 ปีมาแล้ว
ถ้ำลอด เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียง สวยงาม และเข้าชมได้ง่ายสะดวกสบายที่สุดในบรรดาถ้ำทั้งหมด แล้วทำไมถ้ำแห่งนี้ชื่อว่า “ถ้ำลอด” นั่นเป็นเพราะถ้ำแห่งนี้มีสายน้ำไหลผ่านตั้งแต่ปากทางเข้าถ้ำไปจนถึงถ้ำสุดท้ายที่อยู่ภายในโพรง ที่มีความยาวกว่า 500 เมตร กว้าง 20 เมตร สูง 50 เมตร สำหรับการเข้าชมถ้ำต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 350 เมตร พร้อมคนนำทางและตะเกียงส่องทาง สาเหตุที่ไม่มีการติดตั้งไฟในถ้ำต่างๆก็เพื่อเป็นการคงไว้ซึ่งธรรมชาติดั้งเดิมให้สวยงามอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านในแถบนั้นที่สมัครมาเป็นคนนำทางให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
ถ้ำลอด เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียง สวยงาม และเข้าชมได้ง่ายสะดวกสบายที่สุดในบรรดาถ้ำทั้งหมด แล้วทำไมถ้ำแห่งนี้ชื่อว่า “ถ้ำลอด” นั่นเป็นเพราะถ้ำแห่งนี้มีสายน้ำไหลผ่านตั้งแต่ปากทางเข้าถ้ำไปจนถึงถ้ำสุดท้ายที่อยู่ภายในโพรง ที่มีความยาวกว่า 500 เมตร กว้าง 20 เมตร สูง 50 เมตร สำหรับการเข้าชมถ้ำต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 350 เมตร พร้อมคนนำทางและตะเกียงส่องทาง สาเหตุที่ไม่มีการติดตั้งไฟในถ้ำต่างๆก็เพื่อเป็นการคงไว้ซึ่งธรรมชาติดั้งเดิมให้สวยงามอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านในแถบนั้นที่สมัครมาเป็นคนนำทางให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
บ้านรักไทย ชมบ้านดิน กินอาหารยูนนาน
บ้านรักไทย เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานรุ่นเดียวกับดอยแม่สลองครับ ที่นี่อยู่บนเขาลุกเดียวเส้นทางเดียวกับการมาเที่ยวปางอุ๋ง ห่างกันเพียง 10 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดอีกเช่นกันเมื่อมาเที่ยวที่ปางอุ๋ง เพราะเพื่อนๆจะได้สัมผัสทั้งวัฒนธรรมแบบจีน และความสวยงามของหมู่บ้านดิน อาหารจีนยูนนานที่แสนอร่อย ของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใคร และยังมีทะเลสาบบนเขาที่ชื่อ "เขื่อนในหมอก" ตั้งอยู่กลางหมู่บ้านอีกด้วย ที่บ้านรักไทยยังมีที่พักและรีสอร์ทเล็กให้บริการด้วย ถ้าใครสนใจพักที่นี่รับรองสวยงามไม่แพ้ปางอุ๋ง แต่ที่พลาดไม่ได้คือการมากินอาหารยูนนานอันเลื่องชื่อ
วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556
ถ้ำถ้ำแก้วโกมล ถ้ำที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ถ้ำแก้วโกมลได้รับยกย่องว่าเป็นถ้ำที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในถ้ำผลึกแร่แคลไซต์ที่ค้นพบเพียง 3 แห่งทั่วโลก คือพบที่ ประเทศจีน ประเทศออสเตรเลียและประเทศไทย
จากการดำเนินการตรวจสอบประทานบัตรเหมืองแร่ฟลูออไรต์ ของสำนักงานทรัพยากรธรณี จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในพื้นที่ของ หจก. พี.วี.ซัพพลายส์(ไทยแลนด์) เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2536 ทำให้พบถ้ำที่เต็มไปด้วยผลึกแคลไซต์ที่มีความบริสุทธิ์อยู่ภายใน โดยไม่พบแร่ฟลูออไรต์ดั่งที่ตั้งใจค้นหา การพัฒนาอุโมงค์เหมืองจึงหยุดลง ระยะแรกของการตรวจพบถ้ำผลึกแคลไซต์ สภาพทางเข้าถ้ำไม่ได้มีความมั่นคงแข็งแรง สุ่มเสี่ยงต่อการพังทลาย
วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556
ส่องแม่ฮ่องสอน...ที่...ดอยกองมู
วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์์คู่่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน ตั้งอยู่บน ดอยกองมู ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพียง 3 ก.ม.เดินทางโดยแยกจากทางหลวงสาย 108 ตรงบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชาขึ้นไปทางซ้ายมือ เป็นทางลาดยางขึ้นภูเขาไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตรก็จะถึงบริเวณวัดพระธาตุดอยกองมู
วัดพระธาตุดอยกองมู เดิมมีชื่อเรียกว่า วัดปลายดอย ประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย "จองต่องสู่" เมื่อ พ.ศ.2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระซึ่งนำมาจากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ.2417 โดย "พระยาสิงหนาทราชา" เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก
วัดพระธาตุดอยกองมู เดิมมีชื่อเรียกว่า วัดปลายดอย ประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย "จองต่องสู่" เมื่อ พ.ศ.2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระซึ่งนำมาจากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ.2417 โดย "พระยาสิงหนาทราชา" เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)