ในปี พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมราษฎรชาวเขาบ้านป่าแป๋ และบ้านห้วยห้อมเป็นครั้งแรก และในปีพ.ศ. 2516 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมราษฎรทั้งสองหมู่บ้านอีกครั้ง ทรงรับสั่งให้ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เข้าช่วยเหลือพัฒนาอาชีพแก่ชาวเขา โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม สังคม และสาธารณสุข จากนั้น ในปี พ.ศ. 2523 ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อยจึงก่อตั้งขึ้นสำเร็จ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย มีพื้นที่รับผิดชอบ 91.75 ตารางกิโลเมตร หรือ 57,368 ไร่ ครอบคลุม 14 หมู่บ้าน ประกอบด้วยชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง และเผ่าละว้า
สำหรับโครงการหลวงแม่ลาน้อยนั้น "หมู่บ้านห้วยห้อม" ถือเป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้รับการส่งเสริมจากโครงการหลวง
ห้วยห้อมเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในอ้อมกอดของธรรมชาติและขุนเขา มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงชันจึงเป็นแหล่งต้นน้ำ ลำธารมีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ชาวบ้านห้วยห้อมส่วนใหญ่เป็นชาวเกะเหรี่ยง อาชีพหลักของชาวบ้านที่นี่คือการทำนา โดยส่วนมากปลูกข้าวนาปี แบบขั้นบันได รองลงมาก็เป็นการปลูกพืชสวน ไม่ว่าจะเป็น กะหล่ำปลี เสาวรส หรือแม้กระทั่งกาแฟ ตลอดจนพืชพื้นเมืองต่าง ๆ ทั้งยังนิยมการเลี้ยงสัตว์อย่าง วัว ควาย แพะ และแกะทั้งพันธ์กินเนื้อและพันธุ์ตัดขน
นอกเหนือจากผลิตผลทางการเกษตร ที่เป็นหน้าเป็นของทางหมู่บ้านห้วยห้อมแล้ว ที่นี่ยังเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยการจักให้มีที่พักแบบโฮมสเตย์ เน้นให้นักท่องเที่ยวผู้มาพักอาศัยได้ซึมซับ วิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงอย่างใกล้ชิดเน้นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในอัตราเพียง 100 บาทต่อคนต่อคืน
หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติของบ้านห้วยห้อมอาทิ “น้ำตกห้วยห้อม” เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่รวมตัวจากลำห้วยเล็ก ๆ จำนวนหลายสายมารวมเป็นน้ำสายเดียวกัน การเดินทางของายน้ำผ่านภูเขาลูกเล็ก ๆ ตามเส้นทางคดเคี้ยวต่าง ๆ ทำให้น้ำตกมีทัศนียภาพที่สวยงามแตกต่างกันออกไปเป็นหลาย ๆ ชั้น มีความโดดเด่นและงดงามเหมาะแก่การพักผ่อน
น้ำตกอีกแห่งหนึ่งคือ "น้ำตกทีหล่าเล" ตั้งอยู่เส้นทางระหว่างบ้านห้วยห้อมไปบ้านดูลาเปลา ทีหล่าเลเป็นชื่อพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งเป็นภาษากะเหรี่ยง มีความงดงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อีกทั้งยังมีต้นไม้ที่ชาวกะเหรี่ยงเรียกว่า "ต้นโป" ซึ่งมีความใหญ่โตขนาด 20 คนโอบ ในปัจจุบันเหลือให้นักท่องเที่ยวได้ชมในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
โปรแกรมท่องเที่ยวน่าสนใจที่ "บ้านห้วยห้อม"
ชมฟาร์มแกะและการทอผ้าขนแกะ
หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จเยี่ยมเยือนประชาชนที่บ้านห้วยห้อม ทรงมีพระราชดำริส่งเสริม ให้ชาวบ้าน มีอาชีพเสริมคือ “การทำผ้าทอขนแกะ” ทรงพระราชทานให้ความช่วยเหลือด้านการปรับปรุงพันธุ์ โดยทรงโปรดฯให้เจ้าหน้าที่ นำพันธุ์แกะจากต่างประเทศ มาทำการผสมพันธุ์แกะพื้นเมือง จนได้แกะลูกพันธุ์ตัดขน การเลี้ยงแกะที่นี่ ก็เป็นเลี้ยงด้วย ภูมิปัญญาชาวบ้านแบบง่ายๆไม่ซับซ้อนเหมือนฟาร์มใหญ่การทอเป็นการทอที่ใช้เอวโบราณดั้งเดิม ไม่ใช้การทอแบบกี่กระตุก ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเน้นความเป็นเอกลักษณ์ตามลายดั้งเดิมที่เคยทำมา เช่น ลายข้าวโพด ลายดอกเข็ม มีเพิ่มเติมลายใหม่บ้าง เช่น ลายเจดีย์ และ ลายดอกบัวตอง ซึ่งแสดงถึงเอกลักษณ์ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการ ทอก็มีด้วยกันหลายอย่าง เช่นผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ย่าม ผ้าตัดเสื้อ ผ้าคลุมโต๊ะ ฯลฯ ราคาก็ไม่แพง มีให้เลือกทั้งหลักสิบ หลักร้อย เป็นงานฝีมือที่น่าครอบครองสักชิ้น ผ้าทอขนแกะที่นี่จัดเป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งเป็นไปตามโครงการพระราชดำริของ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ต้องการสร้างอาชีพและรายได้ให้ชาวบ้าน ผ้าขนแกะจึงเป็นหัตถกรรมที่สร้างชื่อเสียงแก่ ห้วยห้อมมาช้านาน
ชมไร่และชิมกาแฟห้วยห้อม
ชิมกาแฟจากไร่สดใหม่จากไร่ ซึ่งชาวบ้านจะชงให้นักท่องเที่ยวชิมฟรี กาแฟห้วยห้อมเป็นกาแฟอันธุ์อาราบิการที่รสชาติเข้มข้น ซึ่งการเพาะปลูกของที่นี่ไม่ใช้สารเคมีใดๆให้เกิดสารตกค้าง จนได้รับการยอมรับจากสตาร์บัคส์ ปัจจุบันชาวบ้านห้วยห้อมสามารถ ผลิตกาแฟแบบครบวงจร ตั้งแต่การเพาะกล้ากาแฟ การผลิต การเก็บ ไปจนถึงการคั่วและบดกาแฟ จนกระทั่งบรรจุหีบห่อสวยงาม
ซึมซับวิถีชีวิตของชาวกระเหรี่ยงบ้านห้วยห้อม
ชาวบ้านส่วนใหญ่จะเป็นชาวกะเหรี่ยงปกากญอ มีการแต่งการที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยังคงประเพณีและวัฒนธรรมของชาวบ้านไว้และ ที่สำคัญชาวบ้านและเด็กๆที่นี่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมาก